ผิวหน้าสวยใสด้วยน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวเป็นสิ่งที่บ้านเราคุ้นเคยเป็นอย่างดีมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย เพราะมีประโยชน์หลายอย่างโดยเฉพาะในเรื่องของความสวยความงาม น้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยวิตามินอี ที่เป็นสารต้านแอนติออกซิแดนต์มีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว และยังช่วยปกป้องพร้อมฟื้นฟูผิวตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการช่วยกระชับผิวทำให้ผิวหนังแต่งตึง ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควรลดปัญหาริ้วรอย ที่สำคัญในน้ำมันมะพร้าวยังมีกรดลอริก ที่มีคุณสมบัติในการช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียบนใบหน้า ช่วยป้องกันปัญหาการเกิดสิวเรื้อรังอย่างได้ผล ทราบกันแบบนี้แล้วลองมาดูวิธีการใช้กันต่อดีกว่า น้ำมันมะพร้าวจะค่อนข้างไวต่อแสงดังนั้นถ้าไม่อยากให้ผิวคล้ำไปกว่าเดิม แนะนำให้ใช้ตอนก่อนนอน โดยทาให้ทั่วใบหน้านวดคลึงเบาๆ เพื่อให้สารอาหารซึมซาบได้ดียิ่งขึ้น จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หรือนานเท่าที่ต้องการ ใครจะทิ้งไว้ข้ามคืนก็ยังได้ หรือถ้ารู้สึกเหนอะแหนะก็ให้ล้างออกแล้วเช็ดผิวหน้าให้แห้ง ทาครีมบำรุงต่อกันได้เลย ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพียงเท่านี้ผิวหน้าของคุณก็จะสวยสดใส นุ่มชุ่มชื่น ไม่หมองคล้ำ ปราศจากสิวกันได้แล้ว ที่สำคัญน้ำมันมะพร้าวยังหาซื้อได้ง่ายในบ้านเรา แต่อย่าลืมให้เลือกใช้เฉพาะน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเพียงเท่านั้น น้ำมันมะพร้าวยังเหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติไม่มีสารเคมีตกค้าง คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าช่วยให้ผิวของคุณสุขภาพดีได้อย่างแน่นอน

ดูแลผมหลังยืด 5 วิธีง่าย ๆให้ผมตรงสวยเงางาม

การยืดผมถาวรทำให้เส้นผมสัมผัสกับความร้อน และสารเคมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สาว ๆ คงมีความกังวลอยู่ไม่น้อย แต่เนื่องจากอยากให้เส้นผมตรงสลายจึงต้องใช้วิธียืดถาวรกัน ซึ่งผลกระทบจากการยืดมีแน่นอน ทั้งจากสารเคมีและความร้อน อาจทำให้ผมแห้งเสีย แตกปลายง่าย หากไม่ทำการบำรุงรักษาสภาพเส้นผมหลังจากการยืด มีวิธีดูแลเส้นผมหลังการยืดง่าย ๆ เพื่อไม่ให้สภาพเส้นผมแย่มากเกินไปมาแนะนำ มีวิธีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ 1.เคราติน เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมช่วยให้เส้นผมเงางามช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสีย ลดการหลุดร่วงของเส้นผม เคราตินเป็นของเหลวใสแค่ชโลมที่เส้นผมขณะที่ผมเปียกหมาด ๆ ควรใช้ทุกครั้งหลังสระผมจะช่วยปิดเกร็ดผมให้มีความชุ่มชื้น และล็อคความชุ่มชื้นไว้ไม่ให้ระเหยออกจากเส้นผม 2.น้ำผึ้ง น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการบำรุงเส้นผมอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเสมือนเพิ่งทำทรีทเม้นท์มา น้ำผึ้งมีความหวานที่จะกลายมาเป็นสารอาหารช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมามีน้ำหนัก ไม่พันกัน ไม่แห้งฟู ไม่แตกปลาย แต่ที่สำคัญหลังจากการหมักแล้วควรล้างทำความสะอาดออกให้หมดด้วย 3.โยเกิร์ต ในการดูแลรักษาเส้นผมจากโยเกิร์ตเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลเร็ว มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากแต่มีประโยชน์มากมาย โยเกิร์ตช่วยในการฟื้นฟูสภาพเส้นผมให้นุ่มสลาย คงความชุ่มชื่นให้ยาวนาน ช่วยปรับสภาพหนังศีรษะให้สมดุลควบคุมไขมัน ขจัดรังแคและต้านเชื้อราบนหนังศีรษะได้ นำโยเกิร์ตผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย หมักผมทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ก็จะช่วยผมที่ผ่านการยืดกลับมาชุ่มชื่นไม่แห้งเสียได้ 4.ไข่แดง ไข่แดงมีโปรตีนสูงเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเส้นผม ผมเสียจะกลับมามีสุขภาพดี ผมเงางามและดกดำ ไข่แดงมีหลายสูตรในการใช้หมักผม แต่ถ้าได้ลองหมักแล้วผมยืดก็จะกลับมาสวยเงางามแน่นอนค่ะ 5.น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวช่วยคืนสภาพเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมานุ่มลื่น มีน้ำหนักสุขภาพผมดีได้ วิธีการหมักด้วยน้ำมันมะพร้าวนวดเบา ๆ … Read moreดูแลผมหลังยืด 5 วิธีง่าย ๆให้ผมตรงสวยเงางาม

สูตรพอกหน้าใสลดริ้วรอยด้วยน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งเป็นน้ำหวานชนิดหนึ่งที่เกิดจากเกสรดอกไม้ โดยผึ้งงานจะนำมาเก็บไว้ในรังผึ้งด้วยวิธีทางกายภาพจนได้เป็นน้ำผึ้งที่มีความหอมหวานและประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและในเรื่องของความสวยความงาม เราสามารถดื่มน้ำผึ้งเป็นประจำเพื่อช่วยบำรุงร่างกาย จัดเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยป้องกันการเกิดโรคได้หลายชนิด หรือนำมาพอกผิวหน้าและผิวกายเพื่อให้ผิวสวยสดใสเรียบเนียนปราศจากริ้วรอย สำหรับวิธีพอกหน้าก็ไม่ยากใครสนใจลองมาดูกันต่อเลยดีกว่าคะ วิธีพอกน้ำผึ้งบนผิวหน้า วิธีการพอกน้ำผึ้งแบบเพรียวๆ ไม่ต้องมีส่วนผสมอื่นใด จัดเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก เหมาะสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก วิธีก็คือหลังล้างหน้า เช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นนำน้ำผึ้งมาทาพอกให้ทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา ด้วยวิธีนวดคลึงเป็นวงกลมเพียงเบาๆ เพื่อช่วยให้สารอาหารซึมซาบได้อย่างทั่วถึง การนวดคลึงยังเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเลือดให้ไหลหมุนเวียนดีอีกด้วย จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที ใครจะทิ้งไว้นานกว่านี้ก็ได้นะคะ เอาที่สะดวก จากนั้นล้างออกให้สะอาดเช็ดหน้าให้แห้ง แล้วทาครีมบำรุงที่เหมาะกับผิวพรรณของเรา ถ้าพอกเวลากลางวันก็อย่าลืมทาครีมกันแดดตามกันด้วย เพียงเท่านี้คุณจะรู้สึกได้เลยว่าผิวหน้านุ่มชุ่มชื่นขึ้น และไม่แห้งหยาบกร้านตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ แต่เวลาหาซื้อน้ำผึ้งก็เลือกดีๆ กันด้วย เพื่อให้คุณได้น้ำผึ้งแท้มาพอกผิวให้สวยกันจริงๆ สำหรับสูตรนี้สามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการเลยค่ะ และยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง

อย่าให้เค้าเรียกว่าป้า เพราะผิวแก่กว่าอายุ

ป้า ๆ ครับ หลบทางหน่อย ปรี๊ด!สิค่ะ เมื่อได้ยินคนเรียกว่าป้า คุณรู้หรือไม่ว่าผิวพรรณเป็นตัวบ่งบอกอายุคุณ หากมีคนเรียกคุณว่าป้าทั้งที่คุณยังอายุไม่ถึงขั้นป้า แสดงว่าผิวพรรณคุณแห้งเหี่ยวไม่มีความชุ่มชื่น จะทำอย่างไรให้ผิวพรรณของคุณดูสดใสอ่อนเยาว์อยู่เสมอ มีเคล็ดลับดี ๆ มาบอกคะ จะได้ไม่ต้องเป็นป้าโดยไม่ทันตั้งตัวกันค่ะ อาหารเพื่อผิวสวย สารอาหารที่ดีคือสิ่งสำคัญหลักในการต่อสู้กับความเสื่อมของสภาพผิวพรรณ การกินอาหารที่ดีและมีอาหารเสริมที่ดีต่อสุขภาพร่วมด้วย ถือเป็นเคล็ดลับในการชะลอเวลาของการร่วงโรยของผิวพรรณ การกินอาหารที่มีคุณภาพต่ำ มีไขมันทรานส์อาจทำให้เกิดการอักเสบ การเสื่อมของเซลล์จนเป็นการอักเสบเรื้อรัง ควรเลือกกินแต่ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอ ถั่ว น้ำมันปลาและอะโวคาโด เป็นต้น เพราะไขมันดีช่วยให้เยื่อหุ้มเซลล์ของเรายึดหยุ่นดูดซึมอาหารได้ดี เคล็ดลับการกินอาหาร -จำกัดน้ำตาลให้อยู่ระหว่าง 4-6 ช้อนชาต่อวัน -กินวิตามินรวมและเกลือแร่ที่มีคุณภาพ -ดื่มน้ำที่สะอาดมาก ๆ -กินคาร์โบไฮเดรต -จำกัดไขมันไม่อิ่มตัวให้อยู่ที่ 2 กรัมต่อวัน -เลี่ยงอาหารทอดที่น้ำมันเหยิ้ม -เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิว การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพควรกระทำร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิว สภาพอากาศ ผิวพรรณจะดีต้องมาจากภายในด้วยค่ะ การเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์จึงมีความสำคัญ และส่งผลต่อผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอคะ

คืนความสดใสให้ผิวหน้าไม่ยากอย่างที่คิด

ผิวหน้าถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นส่วนแรกที่ผู้คนต้องพบเห็นเวลาเราไปไหนมาไหน หรือต้องไปพบปะผู้คน เวลาที่ผิวหน้าไม่สดใสบางครั้งยังทำให้เรารู้สึกขาดความมั่นใจกันไปได้เลย ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่มาลองเปลี่ยนผิวหน้าหมองๆ ให้สวยสดใสกันดีกว่าค่ะ ขั้นตอนง่ายๆ ที่ควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผิวหน้าสวยสดใส เริ่มจากทุกครั้งหลังล้างหน้าควรทามอยสเจอไรเซอร์วิธีในการทาก็คือให้ใช้ปลายนิ้วนวดผิวหน้าให้ทั่ว เพื่อช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้ทำงานดีขึ้น และควรใช้น้ำเย็นล้างหน้าหลังทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จแล้ว เพราะความเย็นจะช่วยทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น และยังช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นอีกด้วย ควรสครับผิวหน้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ และควรเลือกสครับแบบที่มีผงขัดเม็ดเล็กๆ แต่อ่อนโยนต่อผิวหน้า นวดลงบนผิวหน้าเบาๆ ซักสองสามวินาทีก่อนจะเติมน้ำลงไปแล้วขัดต่ออีกรอบ วิธีนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป และยังช่วยให้ร่างกายผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้คุณเผยผิวที่สวยสดใสกว่าเดิม นอกจากนี้หลังการล้างหน้าหรือสครับผิวทุกครั้งควรทาครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวกันด้วย เพื่อช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นไม่แห้งหยาบกร้าน และที่สำคัญทุกครั้งก่อนออกจากบ้านอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณสดใสเปล่งปลั่งไม่หมองคล้ำกันได้แล้วค่ะ

เผยเทคนิคก่อนนอนเพื่อความสวยใสในทุก ๆ เช้า

การดูแลผิวพรรณไม่ใช่แค่การสรรหาเครื่องสำอางมาช่วยดูแลเพียงอย่างเดียว แต่การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอก็มีความสำคัญอย่างมากในการดูแลสุขภาพและดูแลผิว ถ้าคุณอยากสวยใสในทุกวันลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองก่อนเข้านอนนะคะ ตื่นเช้ามาคุณจะได้สวยสดใสและมีความมั่นใจทั้งวัน 1.ไม่นอนหลับไปพร้อมกับเครื่องสำอาง ล้างทำความสะอาดผิวหน้าก่อน ต่อให้เราทำงานมาเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน สิ่งสำคัญและคือต้องล้างหน้าทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดเสียก่อน เริ่มจากเช็คเครื่องสำอางออกให้หมดด้วยคลีนซิ่ง แล้วล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนและตามด้วยโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ มอยส์เจอไรเซอร์ เช็ดอีกรอบเพื่อความแน่ใจว่าเครื่องสำอางออกหมดเพื่อจะได้ไม่เป็นสิว 2.ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา รอบดวงตาของเรามักเกิดริ้วรอยและหมองคล้ำ สาว ๆควรให้ความสำคัญบริเวณรอบดวงตาใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาทาบำรุงก่อนนอนค่ะ 3.แปรงฟัน สุขภาพฟันก็มีความสำคัญ ควรดูแลและแปรงฟันก่อนนอน เพื่อป้องกันแหล่งสะสมเชื้อโรคและฟันผุอีก 4.ทาบำรุงริมฝีปากให้ ชุ่มชื่น อย่าลืมทาลิปมันแบบไม่มีสีไม่มีกลิ่นก่อนเข้านอน เนื่องจากริมฝีปากเป็นส่วนที่แห้งง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้แห้งแตกจะต้องทาบำรุงให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื่นก่อนนอนนะค่ะ 5.ม้วนผม ตื่นเช้ามาแล้วผมชี้ฟูพันกันจนยุ่งเยิง สาว ๆควรม้วนผมเก็บไว้ให้เรียบร้อย และยังช่วยไม่ให้ใบหน้าเกิดสิวจากเส้นผมที่มาสัมผัสใบหน้าอีกด้วย 6.งดทาแป้งหลังทาครีม ช่วงกลางคืนเรานอนหลับไม่รู้ตัว อาจจะพลิกตัวไปมาทำให้ใบหน้าสัมผัสกับหมอนและผิวหน้าของเราก็จะผลิตเอาความมันออกมาเรื่อย ๆ ถ้าคุณทาแป้งแล้วนอนเมื่อใบหน้าไปสัมผัสกับหมอนก็จะทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวได้ง่าย 7.นอนหลับให้เพียงพอในทุก ๆ วัน สาว ๆ ควรนอนพักผ่อนให้ครบ 8-10 ชั่วโมง หรืออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพราะเวลานอนผิวพรรณจะซ่อมแซมบำรุงตัวเองและควรทาครีมบำรุงผิว อาหารผิวก็จะยังเข้าไปบำรุงดูแลผิวขณะหลับได้อย่างล้ำลึก การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด จะทำให้ร่างกายและสมองที่ทำงานหนักมาทั้งวันได้พักผ่อน ส่งผลให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงและยังสวยสดใสมั่นใจตลอดทั้งวันค่ะ

น้ำมะนาวช่วยดูแลผิวหน้าลดปัญหาผิวมัน

มะนาวอยู่คู่ครัวเรือนไทยมาช้านานแล้ว เพราะเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องปรุงที่เรามักใช้เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวให้กับรสชาติของอาหาร นอกจากเรื่องของการใช้มะนาวกับใบหน้าแล้ว เปลือกมะนาวยังนำมาใช้ประโยชน์ได้ด้วย โดยการนำไปทาตามบริเวณข้อศอก หัวเข่าหรือส้นเท้าแตก จะช่วยให้ผิวบริเวณนั้นนุ่มนวล และขาวขึ้นได้ สำหรับใครที่เป็นสิวให้ใช้น้ำมะนาวทาบาง ๆ บนบริเวณที่เป็นทิ้งไว้พักสัก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด น้ำมะนาวเป็นยามีฤทธิ์ลดการอักเสบ ระงับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค จึงช่วยฆ่าเชื้อที่หัวสิวได้ สิวจะค่อยยุบตัวลง และยังไม่ทิ้งร่องรอยไว้อีกด้วยค่ะ อยากหน้าขาวใสปราศจากสิวอย่าลืมนึกถึงน้ำมะนาวกันนะคะ มาดูวิธีช่วยรักษาผิวหน้ามันกันดีกว่า ให้ใช้น้ำมะนาวทาที่บริเวณผิวหน้ายกเว้นรอบดวงตานวดเบาๆ ทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ในน้ำมะนาวมี AHA ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไปได้ และช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ ควรทำสัปดาห์ละครั้ง ใช้เป็นประจำผิวคุณจะสวยนุ่มนวลและหายมันไปได้เลย แถมยังช่วยกระชับรูขุมขน ให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้อีกด้วย สิ่งสำคัญก็คือน้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด ใครที่มีผิวบอบบางอาจจะเกิดอาการแพ้ได้ ถ้าทาแล้วรู้สึกแสบคันมากให้รีบล้างออก หรือทดสอบความแพ้โดนทาน้ำมะนาวที่ท้องแขน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ถ้าไม่รู้สึกระคายเคืองแสดงว่าคุณสามารถใช้ได้ อยากมีผิวสวยอย่าลืมใส่ใจผิวกันนะคะ

มะขามเปียกพอกหน้าช่วยขจัดสิวผิวหน้าเนียนใส

มะขามเปียกเป็นสิ่งที่อยู่คู่ครัวไทยมาตั้งแต่โบราณ นิยมนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารช่วยให้อาหารมีรสชาติเปรี้ยวอร่อยกลมกล่อม แต่มะขามก็ยังจัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังสามารถนำมาบำรุงผิวพรรณให้สวยเนียนใสได้อีกด้วย เหตุผลก็คือในมะขามเปียกอุดมไปด้วยกรด AHA ที่มีส่วนในการช่วยให้ผิวกระจ่างใสไม่แห้งหยาบกร้าน และยังช่วยลดรอยด่างดำ และปัญหาการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี สำหรับการใช้มะขามเปียกพอกหน้านั้น สามารถใช้เพียงมะขามเปียกเฉยๆ หรือใส่ส่วนผสมอย่างอื่น เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวมากขึ้น เช่น นมสด น้ำมะนาว และ น้ำผึ้งเป็นต้น สิ่งสำคัญก็คือมะขามมีฤทธิ์เป็นกรดถ้านำมาพอกหน้าไม่ควรพอกนานจนเกินไป ควรใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที ในระหว่างพอกอาจจะรู้สึกแสบคันยิบๆ ที่ใบหน้า ซึ่งถ้ารู้สึกแสบมากให้รีบล้างน้ำออกทันที การใช้มะขามเปียกพอกหน้าควรใช้นิ้วมืดนวดคลึงเบาๆ ที่ผิว เพื่อเป็นการช่วยให้เซลล์ที่ตายแล้วหลุดออกและยังช่วยให้ร่างกายผลัดเซลล์ผิวใหม่ที่สวยสดใสกว่าเดิมขึ้นมาแทนที่ สูตรมะขามเปียกพอกหน้าถ้าคุณไม่แพ้ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง แต่ถ้าใครมีผิวแห้งและบอบบางซึ่งอาจจะมีอาการแพ้ให้เลือกใช้สูตรอื่น และสำหรับใครที่ต้องการลดริ้วรอยจุดด่างดำขณะพอกหน้าก็อย่าลืมนวดโดยเน้นที่บริเวณนั้นให้มากหน่อย หรือใครจะใช้วิธีนำมะขามเปียกมาแต้มไว้ตรงจุดด่างดำก็ได้เช่นกัน โดยแต้มทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออกก็จะช่วยให้จุดด่างดำค่อยๆ จางลง

มะเขือเทศช่วยลดปัญหาหน้าหมอง เผยผิวกระจ่างใส

มะเขือเทศจัดเป็นราชินีผลไม้ ในมะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี, วิตามิเอ, วิตามินเค, วิตามินพี, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก เป็นต้น นิยมนำมารับประทานสดๆ ปั้นเป็นน้ำ และเป็นส่วนประกอบของอาหาร มะเขือเทศที่ในบ้านเรามีนิยมรับประทานกันก็จะมีอยู่สองสายพันธ์ได้แก่ มะเขือเทศสีดา และมะเขือเทศราชินี สำหรับประโยชน์ของประเขือเทศในการช่วยลดปัญหาหน้าหมองช่วยเผยผิวกระจ่างใสนั้น สามารถทำได้ดังนี้ 1. รับประทานมะเขือเทศสดๆ เป็นประจำ หรือใครจะรับประทานเป็นน้ำมะเขือเทศปั้นก็ได้เช่นกัน การรับประทานจะช่วยให้คุณสวยจากภายในสู่ภายนอกกันได้เลย ซึ่งระยะเวลาแต่ละคนจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพผิว สำหรับสูตรนี้รับรองได้เลยว่าเมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยให้คุณค่อยๆ เผยผิวสวยสดใสได้อย่างแน่นอน 2. พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ วิธีก็คือ ล้างหน้าให้สะอาดนำมะเขือเทศมาฝานเป็นแว่นบางๆ จากนั้นนำมาแปะให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างน้ำออกให้สะอาด ใครจะใช้วิธีฝ่าแล้วนำมะเขือเทศมาทาให้ทั่วหน้า หรือบดด้วยช้อนก่อนแล้วค่อยนำมาทาก็ได้เช่นกันค่ะ 3. ปั่นมะเขือเทศผสมกับโยเกิร์ต แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก สำหรับสูตรนี้นอกจากผิวสวยแล้วยังช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นอีกด้วย การพอกหน้าด้วยมะเขือเทศสามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ เพราะเป็นสูตรจากธรรมชาติไม่มีสารเคมีตกค้าง และยังเหมาะกับทุกสภาพผิว

เลือกครีมบำรุงผิวหน้าอย่างถูกวิธีเพื่อผิวสวย

ครีมบำรุงผิวถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะมีสารอาหารหลายอย่างที่จำเป็นสำหรับผิว ช่วยให้ผิวของคุณนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งหยาบกร้าน ผิวเนียนกระจ่างใส และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากผิวสวยต้องไม่ละเลยและใส่ใจในการเลือกครีมบำรุงผิวกันเป็นพิเศษนะคะ สำหรับวิธีเลือกก็ไม่ยากโดยคุณสามารถทำได้ดังนี้ 1. เลือกใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสำหรับสภาพผิว เช่น เราเป็นคนผิวประเภทใด ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวธรรมดา หรือผิวผสม ก็ให้เลือกใช้ครีมที่เหมาะสำหรับผิวประเภทนั้นๆ โดยสามารถอ่านได้จากสลากของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 2. เลือกใช้ครีมให้เหมาะกับช่วงเวลา เช่น ครีมสำหรับใช้เวลากลางวัน ครีมสำหรับใช้ก่อนนอน เพราะแต่ละตัวจะมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน อย่างเช่นในตอนกลางวันก็จะมีส่วนผสมของครีมกันแดดหรือสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ส่วนเวลากลางคืนมักจะเน้นในเรื่องของการบำรุงเป็นหลัก 3. ทาครีมให้ถูกวิธีการทาควรทาอย่างเบามือ และนวดคลึงเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า หรือดูวิธีการใช้ได้ที่ตัวผลิตภัณฑ์ 4. ดูด้วยว่าครีมที่เราใช้สำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะ หรือสำหรับผิวกาย ควรแยกใช้ให้เหมาะสม เพราะผิวหน้าจะบอบบางกว่าผิวกาย แต่ครีมบางยี่ห้อก็ผลิตขึ้นมาให้สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย 5. ปริมาณในการใช้ทาในแต่ละครั้งไม่ควรมากหรือน้อยจนเกินไป เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จากเนื้อครีมได้อย่างเต็มที่ ใครอยากมีผิวสวย การเลือกใช้ครีมบำรุงก็มีส่วนสำคัญนะคะ ใส่ใจกันสักนิดเพื่อผิวพรรณที่สวยสดใส

เผยสิวสวยสุขภาพดีด้วยน้ำมะกอก

น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ อาทิเช่น วิตามินเอ, วิตามินอี, วิตามินเค, และสารต้านอนุมูลอิสระ น้ำมันมะกอกสามารถนำมาใช้ได้ทั้งแบบรับประทานและทาภายนอก โดยเฉพาะในเรื่องของความสวยความงามว่ากันว่าน้ำมันมะกอกจัดเป็นน้ำมันที่นิยมนำมาใช้ในการบำรุงผิวพรรณมากที่สุดเพราะสามารถใช้ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ากันเลย สำหรับผิวหน้าจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งหยาบกร้าน ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวสดใสเปล่งปลั่ง วิธีใช้ก็ง่ายแสนง่าย โดยคุณสามารถทำได้ดังนี้ 1. นำน้ำมันมะกอกมาทาหน้าหลังล้างหน้าสะอาดแล้ว สามารถทาทิ้งไว้ได้ทั้งวัน หรืออย่างน้อย 15 นาที สูตรนี้ยิ่งทำบ่อยก็ยิ่งดีค่ะ และสำหรับใครที่อยากมีขนคิ้วดกดำก็สามารถใช้น้ำมะกอกทาเป็นประจำได้เช่นเดียวกัน 2. นอกจากการบำรุงแล้ว สำหรับใครที่แต่งหน้าเข้มๆ สามารถใช้น้ำมันกอกช่วยล้างเครื่องสำอางก่อนการล้างหน้าได้อีกด้วย วิธีก็คือนำสำลีมาชุบน้ำมันมะกอก แล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า เครื่องสำอางที่ติดทนนานก็จะหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย และยังไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้านอีกด้วย น้ำมันมะกอกนอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังมีราคาถูกหาซื้อได้ง่ายในบ้านเรา เหมาะกับทุกสภาพผิวมีกลิ่นหอม ในช่วงอากาศหนาวๆ ใครที่มีหิวแห้งมากๆ ลองใช้น้ำมันมะกอกทาผิวกันดูนะคะ รับรองได้เลยว่าจะนุ่มชุ่มชื่น และปกป้องผิวคุณไม่ให้แห้งลอกเป็นขุ่ยจากอากาศหนาวได้เป็นอย่างดี

บำรุงผิวหน้าด้วยน้ำมันงา

คนโบราณรู้จักการนำน้ำมันงามาใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณกันมาเป็นเวลานานแล้ว น้ำมันงาเกิดจากงาดิบ มีสีเหลืองใส และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ น้ำมันงามีสารอาหารหลายชนิดที่มีประโยชน์สามารถช่วยปกป้องผิวของเราได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสาร Beta – sitosterol ที่มีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักสบ และช่วยบรรเทาอาการของแผลบนผิวหนัง สำหรับวิธีใช้ดูแลผิวสามารถทำได้หลายวิธี เช่น 1. ใช้นวดหน้า หลังล้างหน้าสะอาดแล้วให้ใช้นำมันงาทาให้ทั่วผิวหน้า โดยวิธีนวดคลึงเป็นวงกลมอย่างเบามือให้ทั่วใบหน้า จากนั้นทิ้งไว้ได้ตามต้องการ หรืออย่างน้อย 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด 2. ใช้ทากันแดด เพราะน้ำมันงาอุดมไปด้วยวิตามินอี จึงสามารถช่วยป้องกันรังสียูวีอย่างได้ผล นอกจากนี้ยังมีสารต่อตานอนุมูลอิสระ จึงช่วยให้ผิวแข็งแรงและลดการอักเสบของผิวได้เป็นอย่างดี 3. ใช้ทาผิวหน้าและผิวก่อนการลงสระว่ายน้ำ สารอาหารในน้ำมันงานจะช่วยปกป้องผิว และป้องกันการแพ้สารเคมีได้เป็นอย่างดี ใครกลัวแพ้เวลาลงสระอย่าลืมทาน้ำมันงาให้ทั่วร่างกายกันก่อนนะคะ 4. สูตรพอกหน้าช่วยผิวขาวใสจากน้ำมันงา สำหรับสูตรนี้จะมีส่วนผสมสองอย่างคือ น้ำมันงา และน้ำผึ้ง นำมาผสมกัน จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด นำส่วนผสมที่ได้มาทาให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ ทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ แล้วผิวหน้าของคุณจะค่อยๆ ขาวขึ้น และยังนุ่มเนียนขึ้นอีกด้วย อยากมีผิวขาวสุขภาพดี ไม่หมองคล้ำ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น ก็อย่าลืมนึกถึงน้ำมันงากันนะคะ