เลือกใช้ครีมกันแดดปกป้องผิวหน้าเพื่อผิวขาวกระจ่างใส

ถ้าอยากมีผิวขาวกระจ่างใสสิ่งหนึ่งที่เราต้องห้ามลืมอย่างเด็ดขาดก็คือการทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน แม้ว่าวันนั้นจะมีแสงแดดหรือไม่ก็ตาม เพราะครีมกันแดดสามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงยูวีอย่างได้ผล แต่ก็ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศในบ้านเรากันด้วยนะคะ สำหรับวิธีการเลือกสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ 1. เลือกครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15+++ ขึ้นไป แต่ถ้าต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน หรือในวันที่อากาศร้อนจัด ก็ควรทาซ้ำ เพราะเหงื่อเป็นสาเหตุทำให้ครีมกันแดดที่เราทาไว้เกิดการลบเลือน ดังนั้นใครที่ต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานานควรทาซ้ำทุกๆ 15 นาที 2. ถ้าต้องทำกิจกรรทางน้ำก็อย่าลืมเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีสรรพคุณสามารถกันน้ำได้ด้วยนะคะ เพราะจะช่วยให้ครีมติดทนนานยิ่งขึ้น 3. เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น ถ้าคุณเป็นคนผิวมันก็ให้เลือกใช้ครีมกันแดดสำหรับผู้ที่มีผิวมัน เป็นต้น 4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อให้คุณได้ใช้ครีมกันแดดปกป้องผิวที่มีประสิทธิภาพ และสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้จริง นอกจากใช้ครีมกันแดดแล้วถ้าเป็นไปได้ควรหลบเลี่ยงแสงแดดกันด้วยนะคะ โดยเฉพาะช่วงเวลา 9.00 น. – 15.00 น. เพราะจะเป็นช่วงที่แสงแดดร้อนแรงที่สุด หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ นอกจากการทาครีมกันแดดแล้วควรมีสิ่งอื่นช่วยป้องกันแสงแดดกันด้วย เช่น หมวกปีกกว้าง ร่มกันแดดที่สามารถป้องกันแสงยูวีได้ ผ้าคลุมศีรษะ เป็นต้น

สูตรบำรุงผิวหน้าช่วยให้ขาวใสด้วยมันฝรั่ง

มันฝรั่งมีลักษณะเป็นหัวกลมรีสีเหลืองอมน้ำตาลอ่อน เนื้อด้านในจะมีสีเหลืองอ่อน มันฝรั่งอุดมไปด้วยสารอาหารหลายอย่าง และมีส่วนช่วยให้ผิวหน้าขาวใสนุ่มนวล อย่างเช่น สูตรมาร์กหน้าต่อไปนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา ใบหน้าหมองคล้ำ มีกระ ฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้า และยังช่วยลดปัญหาการเกิดสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวหัวดำ, สิวอักเสบ, สิวอุดตัน และ สิวผด เป็นต้น ส่วนผสมที่ต้องใช้ – มันฝรั่ง 1 หัว – นมสดพร่องมันเนยรสจืดหรือรสธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. นำมันฝรั่งมาล้างให้สะอาด แล้วปลอกเปลือกต้มจนสุก จากนั้นบดให้ละเอียด ผสมกับนมคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว 2. นำส่วนผสมที่ได้มาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา การทาให้ใช้นิ้วมือคลึงเบาๆ เป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้า เพื่อให้เนื้อครีมซึมซับเข้าสู่ใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น 3. ทิ้งไว้ประมาณ 25-30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เช็ดหน้าให้แห้งทาครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวต่อกันได้เลย ก็เป็นอันเสร็จ สำหรับสูตรนี้ถ้าต้องการให้ได้ผลดีควรทำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ผิวหน้าของคุณก็จะค่อยๆ ขาวขึ้น ปัญหาการเกิดสิวจะค่อยๆ ลดน้อยลง นอกจากนี้สูตรมาร์กหน้าจากมันฝรั่งยังสามารถช่วยลดปัญหาความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย … Read moreสูตรบำรุงผิวหน้าช่วยให้ขาวใสด้วยมันฝรั่ง

เคล็ดลับผิวหน้าใสด้วยนมสด

นมอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกาย ส่วนใหญ่จะนิยมให้เด็กๆ รับประทานเป็นประจำช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่นมก็ยังมีประโยชน์ในเรื่องของความสวยความงามกันด้วย เพราะสารอาหารในน้ำนมสามารถช่วยบำรุงผิวพรรณของเราได้เป็นอย่างดี เหมือนกับที่หลายคนคงเคยได้ยินว่า อาบน้ำแร่แช่น้ำนมนั่นเอง สำหรับวิธีใช้นมสดในการช่วยดูแลผิวสามารถทำได้หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น 1. ใช้เป็นโทนเนอร์ วิธีง่ายๆ หลังล้างหน้านำสำลีมาชุบนมสดทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดคลึงเบาๆ ทิ้งไว้สักพักหรือประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด แค่นี้หน้าก็จะนุ่มชุ่มชื่นกันแล้วค่ะ 2. นอนดึกขอบตาดำเหมือนหมีแพนด้า นมสดช่วยได้นะจ๊ะ เพียงแค่ใช้สำลีชุบนมสดทาบริเวณใต้ตาเพียงเบาๆ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที รอยคล้ำบริเวณใต้ตาจะจางลง 3. นมสดช่วยให้ผิวหน้าดูชุ่มชื่นตลอดทั้งวัน เพียงแค่คุณใช้นมสดปริมาณไม่มากผสมกับน้ำสะอาด ใส่ขวดสเปรย์และแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น ถ้ารู้สึกผิวแห้งหรือใครที่ต้องอยู่ในห้องแอร์นานๆ ให้หยิบมาฉีดบนใบหน้าเพียงเล็กน้อย นอกจากผิวจะนุ่มไม่แห้งหยาบกร้านยังช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นอีกด้วยค่ะ 4. มาร์กหน้าด้วยนมสด ง่ายๆ เพียงใช้สำลีชุบนมสดแล้วนำมาวางให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้จนสำลีแห้งหมาดๆ หรือประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด นมนอกจากจะช่วยให้ผิวหน้าขาวใสแล้วยังช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้นอีกด้วย จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยอย่างได้ผล

เผย 7 เคล็ดลับความงาม สร้างความอ่อนเยาว์ให้คงอยู่ด้วยตัวคุณเอง

ความอ่อนเยาว์มักจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา เราไม่สามารถหยุดเวลาได้ แต่เราสามารถยับยั้งความเสื่อมโทรมของร่างกายเราได้ เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างและปรับเปลี่ยนเป็นประจำ เพื่อช่วยต่อต้านความร่วงโรยและสร้างความอ่อนเยาว์ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ 1.ควรทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อเป็นการปกป้องผิวของคุณในทุก ๆ วัน ควรให้ความสำคัญกับครีมกันแดด ทาครีมกันแดดทุกวันและควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เพื่อเป็นอาวุธป้องกันริ้วรอยแห่งวัย แพทย์ผิวหนังแนะนำค่า SPF 30 เป็นมาตรฐาน และควรทาทุกวันถึงฝนจะตกหรือแดดจะออก ทาได้ในระหว่างวันด้วย 2.ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายเพิ่มการหมุนเวียนโลหิต ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง การออกกำลังกายยังช่วยย้อนเวลาให้ดูอ่อนเยาว์มีรูปร่างได้สัดส่วน คุณก็จะดูเด็กลงด้วยได้ทั้งสุขภาพดีและดูอ่อนเยาว์ด้วย สาว ๆ อย่าลืมออกกำลังกายกันคะ 3.ระมัดระวังการบริโภคโซเดียม เพื่อความอ่อนเยาว์การไม่รับประทานอาหารที่มีรสเค็ม จะช่วยทำให้ผิวอ่อนนุ่ม โซเดียมก็คือเกลือแร่ หรือส่วนผสมหนึ่งในเกลือที่ทำให้อาหารมีรสเค็ม จะทำให้ผิวพรรณของเราแห้งกร้านไม่อ่อนนุ่มอีกด้วย 4.การทาโลชั่นบนมือ ผิวมือของคุณจะดูแก่กว่าที่ควร หากคุณไม่ทาโลชั่นช่วยบนมือของคุณ ผิวหนังบนหลังมือบอบบางมากเกิดริ้วรอยดูแก่กว่าวัยได้ง่ายด้วย ฉะนั้นการทาโลชั่นที่มีส่วนผสมของกันแดดร่วมอยู่ด้วย จะทำให้ลดความเสียหายจากแสงอาทิตย์ได้ 5.ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง โปรตีนมีประโยชน์ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ดังนั้นไม่ควรอดหรืองดอาหารประเภทโปรตีนเพราะกลัวอ้วน หากร่างกายขาดโปรตีนจะทำให้การเสริมสร้างกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างไม่เพียงพอ โปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมนช่วยรักษาความสมดุลของร่างกาย 6.จัดการกับความเครียด ความเครียดไม่ได้แค่ทำให้ตัวคุณรู้สึกแย่ แต่มันยังส่งผลกระทบต่อภายต่างกายคุณด้วย ทำให้ผิวเกิดการอักเสบ สิว แผลเปื่อยเน่าได้ ฉะนั้นเราควรกำจัดความเครียดออกไป คิดบวกเข้าไว้และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สนุกไม่เกิดความเครียดเกิดขึ้น 7.นอนหลับให้เพียงพอ ในระหว่างที่เรากำลังนอนหลับร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตเจน … Read moreเผย 7 เคล็ดลับความงาม สร้างความอ่อนเยาว์ให้คงอยู่ด้วยตัวคุณเอง

วิธีดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใสไม่หมองคล้ำ

ผิวหน้าถือว่ามีส่วนสำคัญเพราะเป็นจุดแรกที่พบเห็น เมื่อเราต้องพบปะผู้คน ดังนั้นถ้าเรามีผิวหน้าหมองคล้ำไม่กระจ่างใสอาจทำให้เรารู้สึกขาดความมั่นใจกันไปได้เลย สำหรับวิธีการดูแลผิวหน้าแบบง่ายๆ ที่สามารถช่วยคุณได้จะมีขั้นตอนดังนี้ 1. ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับสภาพผิว เช่น ถ้าคุณเป็นคนที่มีผิวหน้ามันควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้ามัน หรือถ้าเป็นคนผิวแห้งก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับคนผิวแห้ง เป็นต้น 2. หลังล้างหน้าทุกครั้งควรเช็ดหน้าให้แห้งและตามด้วยการทาครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว 3. ก่อนออกจากบ้านในตอนเช้าอย่าลืมทาครีมกันแดด ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีแสงแดดหรือไม่ก็ตาม เพราะรังสียูวีก็ยังถูกส่งลงมาอยู่ดี โดยเฉพาะใครที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อผิวหน้าขาวสดใสไม่หมองคล้ำ 4. พอกหน้า ขัด หรือสครับหน้าบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ด้วยสูตรจากธรรมชาติ เพื่อช่วยบำรุงผิวหน้า และช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป ช่วยให้ร่างกายเผยผิวใหม่ที่สวยสดใส 5. ดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำหรืออย่างน้อยวันละ 7-8 แก้ว น้ำมีส่วนในการช่วยให้ผิวพรรณของคุณชุ่มชื่น ไม่แห้งหยาบกร้าน 6. ทานอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียง และสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกายได้ดี 7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอหรืออย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณมีผิวหน้าที่สวยสดใสไม่หมองคล้ำกันได้แล้วค่ะ

วิธีดูแลผิวหน้าให้ใสกิ๊ก

ผิวหน้าสวยใสไร้สิวคงเป็นที่ปรารถนาของทุกคน แต่การจะมีใบหน้าใสกิ๊ก ตัวเราเองก็มีส่วนสำคัญโดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็มีส่วนทำให้ผิวหน้าของเราหมองคล้ำ หรือเกิดริ้วรอยขึ้นได้ สำหรับวิธีง่ายๆ ที่คุณควรทำทุกวันเพื่อให้ผิวหน้าสวยใสนั้นไม่ยากค่ะ เพียงทำวิธีต่างๆ เหล่านี้ 1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่เหมาะกับผิวของเรา ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ครีมบำรุงผิว และเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้า โดยเฉพาะใครที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายต้องใส่ใจผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นพิเศษ 2. ปกป้องผิวจากแสงแดด ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน แต่ทาครีมแล้วก็ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดกันด้วยนะคะ เพราะแสงแดดคือตัวการร้ายสำหรับผิว 3. สครับผิวหน้าบ้าง เพราะการสครับจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกไป และยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่สวยสดใสกว่าเดิม 4. เลือกรับประทานผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เพราะวิตามินซีมีประโยชน์หลายอย่างต่อผิวพรรณของเรา สำหรับผักผลไม้ที่ว่าก็อย่างเช่น ส้ม, มะนาว, แอปเปิ้ล, ฝรั่ง เป็นต้น 5. หยุดพฤติกรรมทำร้ายผิว เช่น การบีบแคะแกะเกาสิวบนใบหน้า เพราะนอกจากจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้น มือเราบ้างครั้งก็สกปรกจะยิ่งทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยมากยิ่งขึ้น 6. ใช้โทนเนอร์ทุกครั้งหลังการล้างหน้า เพราะโทนเนอร์มีส่วนในการช่วยปรับค่าพีเอชของผิวให้สมดุล ทำให้ผิวสามารถซึมซาบครีมบำรุงผิวได้ดียิ่งขึ้น ใครอยากมีผิวหน้าใสกิ๊ก ก็อย่าลืมทำตามคำแนะนำข้างต้นกันนะคะ

พอกหน้าด้วยไข่ขาว คืนความงามให้แก่ผิว

ไข่เป็นอาหารหลักที่มักจะมีอยู่ในครัวกับเกือบทุกบ้าน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่างในเวลาอันรวดเร็วอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่สำคัญไข่ยังมีประโยชน์ต่อผิวอีกด้วย จริงๆ แล้วจะสามารถใช้ได้ทั้งไข่ขาวและไข่แดง แต่ในบทความนี้เราขอแนะนำไข่ขาว โดยก่อนอื่นให้ตอกไข่แล้วแยกไข่แดงออกจากไข่ขาวก่อน แต่ไข่แดงก็อย่าทิ้งกันนะคะ สามารถนำไปเจียวหรือทอดรับประทานได้ เมื่อได้ไข่ขาวมาแล้วขั้นต่อไปก็คือ ล้างหน้าให้สะอาดเช็ดให้แห้ง แล้วนำไข่ขาวมาทาให้ทั่วใบหน้ายกเว้นรอบดวงตา จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หรือรอจนกว่าไข่จะแห้ง แต่ถ้าใครอยากลอกสิวเสี้ยนแนะนำให้หาสำลีแผ่นบางๆ มาแปะทับไข่ขาวในตอนที่ไข่ยังไม่แห้งด้วยนะคะ สูตรนี้จะสามารถลอกสิวเสี้ยนออกได้เป็นอย่างดีค่ะ ที่สำคัญในระหว่างทาตอนช่วงที่ไข่กำลังจะแห้งผิวหน้าจะรู้สึกตรึงเล็กน้อย ให้ทำหน้านิ่งๆ ไว้นะคะ ไม่งั้นอาจจะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นกันได้ง่ายๆ เมื่อครบกำหนดถ้าคุณแปะสำลีให้ค่อยๆ ลอกออก แล้วล้างน้ำสะอาดให้เกลี้ยง เช็ดหน้าให้แห้ง ตามด้วยครีมบำรุงผิว สูตรนี้สามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ เมื่อทำเป็นประจำผิวหน้าของคุณจะขาวใส เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ลดปัญหารูขุมขนอุดตันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว สูตรนี้ยังเหมาะกับทุกสภาพผิว ใครอยากมีผิวสวยอย่าลืมพอกหน้าด้วยไข่ขาวกันนะคะ รับรองได้เลยว่าไม่ผิดหวัง

เผยเคล็ดลับรักษารอยสิวสูตรธรรมชาติ

“สิว ๆๆ” เป็นคำที่สาว ๆหลายคนคงจะไม่ชอบเอาเลยใช่ไหมคะ ผู้เขียนเองบอกเลยว่าไม่ชอบเอามาก ๆ ค่ะ โผล่ขึ้นมาแต่ละที่สิวหัวหนอง สิวอักเสบกว่าจะหายใช้เวลาอยู่หลายวัน ไม่ใช่หายสิแค่ย้ายที่เกิด พอมันย้ายไปที่ใหม่ก็จะทิ้งรอยเดิมเอาไว้ดูต่างหน้า สาว ๆ ต้องมานั่งปวดใจอีก ทั้งสิว รอยสิว ต้องหาครีมต่าง ๆ นานา มาเพื่อจะรักษาแต่สาว ๆรู้ไหมคะว่าวัตถุดิบจากธรรมชาติเราสามารถนำมาใช้ลดเลือนรอยสิวให้จางลงได้ด้วย มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ 1.ว่านหางจระเข้ สมุนไพรจากธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม สรรพคุณมีมากมายคะ เพียงใช้เนื้อเจลว่านหางจระเข้มานวดเบา ๆ ตรงรอยสิวแล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จึงล้างออกจะพบว่าว่านหางจระเข้ช่วยเคลีย์รอยสิวได้ 2.น้ำมะนาว น้ำมะนาวมีคุณสมบัติความเป็นกรดสูง ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้ การลดเลือนรอยสิวจากน้ำมะนามทำได้ง่าย ๆ บีบน้ำมะนาวผสมกับน้ำสะอาดเล็กน้อย แล้วทาบนรอยสิวทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือทาทิ้งไว้ก่อนนอนทั้งคืนก็ได้ น้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกทำให้รอยสิวจางลงเร็วด้วย 3.น้ำผึ้ง น้ำผึ้งฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้เป็นอย่างดี การลดเลือนรอยสิวจากน้ำผึ้งทำได้โดยทาน้ำผึ้งบนรอยสิวแล้วนวดเบา ๆ ทิ้งไว้สัก 20 – 30 นาทีแล้วล้างออกเท่านี้ก็ลดรอยสิวให้จางลงได้แล้ว สามารถพอกหน้าเป็นประจำทุกวันได้ด้วย 4.น้ำมันมะพร้าว วิตามินจากน้ำมะพร้าวจะช่วยรักษารอยสิว เพียงแค่ใช้น้ำมันมะพร้าวทาบนรอยสิวแล้วนวดเบา … Read moreเผยเคล็ดลับรักษารอยสิวสูตรธรรมชาติ